วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

หลินจือกาโน-รากหลินจือและดอกหลินจือ



     หลินจือของกาโนฯ แตกต่างจากหลินจือทั่วไป เรียกได้ว่า "ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน" 
     รากหลินจือ ที่แตกต่างจากรากหลินจือของคนอื่น โดยรากหลินจือที่ผลิตในประเทศจีนหรือประเทศญี่ปุ่น เป็นการสะกัดจากรากที่เราเรียกว่า ใยเห็ด หรือ  ส่าเห็ด ซึ่งต้นทุนในการสะกัดจะแพงมาก ราคารากหลินจือของประเทศจีนและประเทศญี่ปุ่น ราคาแพงกว่าดอกหลินจือ
     แต่สำหรับรากหลินจือของกาโน มร.เลียวซุนเส็ง เจ้าตำรับหลินจือรากและดอก 6 สายพันธุ์ สามารถคิดค้นสะกัดรากหลินจือที่เรียกว่า "เอ็กซีเลี่ยม" 
     เอ็กซีเลี่ยมนี้ เป็นจุดศูนย์รวมของใยเห็ดในถุงเพาะ อยู่ตรงปากถุง ซึ่งถุงเพาะหลินจือในโรงเพาะได้ประมาณ 20 วัน พอวันที่ 21 ก้านหลินจือจะแทงทะลุเอ็กซีเลี่ยมขึ้นมาที่ปากถุงเพาะ เปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ เอ็กซีเลี่ยมคล้าย ๆ ตาของกิ่งไม้ที่เป็นจุดที่กิ่งไม้แทงก้านออกมานั่นแหละ
     ดูเหมือนเอ็กซีเลี่ยมมีถุงละเม็ดเท่านั้น เล็กนิดเดียว ราคาน่าจะแพงกว่าใยเห็ดสะกัด
     นี่คือความสามารถเฉพาะตัวของ มร.เลียวซุนเส็ง เจ้าตำรับที่ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้ ท่านสามารถเพาะในเชิงอุตสาหกรรมได้อย่างมากมายมหาศาล เป็นการลดต้นทุนได้อย่างมาก ทำให้สามารถขายรากหลินจือ ถูกกว่าดอกหลินจือ
     สำหรับดอกหลินจือสะกัด ท่านได้ทำการศึกษาค้นคว้า นำหลินจือแดงแต่ละสายพันธุ์มาคัดเลือก จนได้หลินจือแดง 4 สายพันธุ์ บวกกับอีก 2 สายพันธุ์ที่ท่านได้คิดค้นเพาะเลี้ยงเป็นสายพันธุ์เฉพาะตัวของท่านเอง
      หลินจือ 6 สายพันธุ์ ประกอบด้วย
      1. หลินจือสายพันธุ์ยูอี
      2. หลินจือสายพันธุ์นกยูง
      3. หลินจือสายพันธุ์จินซัน
      4. หลินจือสายพันธุ์รูปสมอง
      5. หลินจือสายพันธุ์รูปตับ (สายพันธุ์ของท่าน)
      6. หลินจือสายพันธุ์รูปหัวใจ (สายพันธุ์ของท่าน)


     โดยทำการสะกัดทีละสายพันธุ์เป็นการสะกัดเย็น จากนั้น นำผงสะกัดแต่ละสายพันธุ์มาผสมกันในอัตราส่วนเป็น 100%
     หลินจือแต่ละสายพันธุ์นั้น โดยพื้นฐานแล้ว มีคุณสมบัติความเป็นยาเหมือนกัน แต่ที่แตกต่างเกิดขึ้นก็คึอ ในแต่ละสายพันธุ์จะมีจุดเด่นเพิ่มมากขึ้น ดังเช่น ทุกสายพันธุ์จะมีคุณสมบัติในการเสริมภูมิต้านทานเหมือนตกัน แต่จะมีสายพันธุ์หนึ่งที่มีความโดดเด่นและเน้นในการสร้างภูมิต้านทานเพิ่มมากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ เหล่านี้เป็นต้น
     นี่แหละที่ "หลินจือรากและดอก 6 สายพันธุ์" ของกาโนฯ จึงช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก ต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคภัยไข้เจ็บมายาวนาน จนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น จนผู้ป่วยอีกมากมายที่มีโอกาสหายจากโรคภัยไข้เจ็บอย่างน่าปลื้มปิติ.....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น