วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2556

กินหลินจือแล้ว ทำไมต้องกินควบเครื่องดื่มด้วย?

        ตลอดขวบปีที่ผ่านมา ผมมักได้รับคำถามนี้บ่อย ๆ ว่า
        ทำไมกินหลินจือแล้ว ต้องดื่มกาแฟหรือไม่ก็ช็อกโกแล็ตของกาโนฯ ด้วย?
          นั่นนะสิ!
        บริษัทต้องการขายสินค้าเพิ่มขึ้นหรือเปล่า? อีกคำถามที่ตามมา
        แน่นอน...เข้าใจผิดเต็ม 100%
        นี่คือ
        ความปรารถนาดี เพื่อสุขภาพของผู้ป่วยด้วยความจริงใจจากบริษัทต่างหาก!
        เพราะเราต้องการให้สมาชิกครอบครัวกาโนฯ ทุกคนรวมถึงผู้ป่วยทุกท่าน ได้กินหลินจือ แล้วได้สารออกฤทธิ์ทางยาให้ครบถ้วนมากที่สุดเท่าที่จะมากได้
        สารออกฤทธิ์ทางยาของหลินจือที่ว่านี้ ไม่ได้เจาะจงชื่อของสารทางเคมี
        แต่เพื่อให้จำได้ง่าย
        จึงได้มีการแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม หรือ 3 ประเภท ดังนี้
1.    สารระเหย ซึ่งมีอยู่ประมาณ 5%
2.    สารที่ละลายในน้ำ มีอยู่ประมาณ 30%
3.    สารที่ไม่ละลายในน้ำ มีอยู่ประมาณ 65%

ณ.ปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการสกัดหลินจือด้วย กรรมวิธีใดก็ตาม ยังคงไม่สามารถสกัดได้สารออกฤทธิ์ทางยาครบถ้วน 100% ของสามประเภทนี้
เรามาทำความเข้าใจในกรรมวิธีการสกัดแต่ละอย่างที่มีความแตกต่างกันก่อน

การสกัดร้อน เป็นวิธีการสกัดแบบดั้งเดิม นั่นก็คือการต้มหลินจือด้วยน้ำ ใช้ความร้อนของน้ำที่เดือดแล้วเป็นตัวดึงสารออกฤทธิ์ทางยาของหลินจือปนมากับน้ำ จากนั้นก็กรองเอาเฉพาะน้ำ จากน้ำหลินจือที่ได้ ก็จะมีวิธีการผลิตด้วยกัน 4 แบบ
ประเภทที่หนึ่ง  เอาน้ำต้มเคี่ยวกับหลินจือ จะเข้มข้นหรือไม่เข้มข้นขึ้นกับกรรมวิธีในการผลิตและการลงทุน จากนั้นส่วนใหญ่ก็จะนำไปผสมกับสมุนไพรอื่น ๆ น้อยรายที่จะใช้น้ำหลินจือที่สกัดได้นี้ล้วน ๆ 100%
ประเภทที่สอง ก็เอาน้ำหลินจือที่ได้ปนคลุกกับแป้ง แล้วปั้มเป็นเม็ด (ปัจจุบันนี้แทบจะเลิกผลิตแบบนี้แล้ว)
ประเภทที่สาม เป็นการสเปรย์ดรายน้ำหลินจือเข้าไปในห้องที่มีความเย็นจัดจนเป็นเกร็ดน้ำแข็ง แต่จะเป็นเกร็ดน้ำแข็งละลายกลับคืนเป็นน้ำได้ จึงจำเป็นต้องพ่นแป้งเข้าไปจับละอองน้ำให้เป็นผง ซึ่งจะพ่นแป้งมีคุณภาพหรือพ่นแป้งไม่มีคุณภาพ พ่นแป้งเยอะหรือพ่นแป้งน้อย ล้วนแล้วแต่มีส่วนในคุณภาพของหลินจือ
ประเภทที่สี่ เป็นการใช้ความดันสุญญากาศกดดันจนกลายเป็นผง
หลินจือสกัดด้วยความร้อนประเภทที่หนึ่งอาจได้สารหลินจือที่ละลายในน้ำได้เกือบ 100% อยู่ที่กรรมวิธีการลิตของผู้ผลิตว่าจะใส่สมุนไพรอื่นลงไปด้วยหรือไม่ ส่วนประเภทที่สองและสามจะไม่มีหลินจือล้วน 100% ด้วยกรรมวิธีการผลิต ที่จำเป็นต้องมีแป้งเข้าไปผสม ในขณะที่กรรมวิธีการผลิตประเภทที่สาม จะมีคุณภาพที่ดีและสามารถผลิตเป็นหลินจือล้วน 100%
ในขณะเดียวกัน ด้วยกรรมวิธีการผลิตแบบสกัดร้อน ความร้อน 100 องศาเซลเซียด ได้ทำลายสารระเหยจนหมดสิ้น ความร้อนสามารถดึงสารที่ละลายในน้ำที่มี 30% ออกมาได้ แต่ไม่สามารถดึงสารที่ไม่ละลายในน้ำ 65% ออกมาได้สำเร็จ ดังนั้น การผลิตประเภทที่สองและสาม แม้จะได้สารที่ละลายในน้ำมาได้ แต่ก็ไม่ถึง 30% เพราะต้องมีแป้งเข้าไปเป็นส่วนผสม จึงมีกรรมวิธีการใช้แรงกดดันสุญญากาศเท่านั้นที่ได้สารละลายในน้ำ 30%
การสกัดเย็นหรือฟรีซดราย เป็นกรรมวิธีการใช้ความเย็นจัดทำให้หลินจือแตกตัวจนกลายเป็นผง แต่ก็ไม่สามารถได้สารออกฤทธิ์ทางยาได้ครบถ้วนสมบูรณ์เช่นเดียวกัน ความเย็นทำให้ได้สารระเหยและสารที่ไม่ละลายในน้ำ รวมแล้วประมาณ 70% แต่ในขณะเดียวกันก็เพิ่มประสิทธิภาพของหลินจือที่ผลิตด้วยกรรมวิธีนี้ก็คือ จะได้ สปอร์หลินจือ มาด้วย ซึ่งสปอร์หลินจือจะออกฤทธิ์ได้แรงกว่าเนื้อโพรงรังผึ้งของหลินจือได้อีกเยอะมาก เพราะฉะนั้น ด้วยกรรมวิธีการสกัดเย็นที่เป็นแบบ ฟรีซดราย จึงมีคุณภาพในการออกฤทธิ์ที่ค่อนข้างแรง จัดจ้านกว่าหลิอจือที่ผลิตด้วยการสกัดร้อนเยอะมาก
มร.เลียวซูนเส็ง ได้พยายามพัฒนาที่จะให้สมาชิกครอบครัวกาโนฯ ได้ประสิทธิภาพครบถ้วนต่อสารออกฤทธิ์ทางยาทั้งสามประเภท ซึ่งแต่เดิมได้ใช้หลินจือ สกัดเย็นผสมอยู่ในเครื่องดื่มทุกประเภท
กระทั่งเมื่อประมาณสัก 10 ปีที่ผ่านมา จึงได้เปลี่ยนแปลงกรรมวิธีการผลิตเครื่องดื่ม ด้วยการใช้น้ำหลินจือสกัดร้อนผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกับเครื่องดื่มชนิดนั้นเลย เช่น หลินจือจะอยู่ในเนื้อเดียวกับเนื้อกาแฟ จนแยกไม่ออกว่า ส่วนไหนเป็นกาแฟ ส่วนไหนเป็นหลินจือ
นี่แหละคือสาเหตุที่บริษัทกาโนฯ พยายามผลักดันให้คนที่กินหลินจือแล้ว ควรจะร่วมด้วยช่วยกันกับการดื่มเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น ซึ่งเครื่องดื่มแต่ละตัวจะมีจุดเด่นเฉพาะตัว ในอาการของโรคแต่ละชนิด ที่เหมาะสมหรือควรจะกินร่วมกับเครื่องดื่มตัวไหน เราได้พยายามแยกแยะออกมาให้กินอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้โรคแต่ละอย่างมีโอกาสดีขึ้นและหายเร็วชัดเจนมากขึ้น
เพราะเราจะได้สารออกฤทธิ์ทางยาที่ครบถ้วนสมบูรณ์อย่างชัดเจน ได้ประสิทธิภาพของเครื่องดื่มแต่ละชนิดเข้ามาเสริม
นี่คือ คุณภาพที่ชัดเจนของผลิตภัณฑ์กาโนฯ ที่เราพยายามผสมผสานให้เห็นถึงคุณค่าของผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของคนกินที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ขึ้น เป็นการเปลี่ยนแปลงชนิดที่คาดคิดไม่ถึงกันทีเดียว
คราวนี้ เรามาดูว่า เครื่องดื่มแต่ละตัวของเรามีจุดเด่นตรงไหน?
กาแฟดำคลาสสิค เหมาะสำหรับคอกาแฟจริง ๆ ไม่มีน้ำตาล ไม่มีครีม รสชาติเข้ม ผนวกด้วยหลินจือที่เพิ่มรสชาติอ่อนละมุน ดื่มหลังอาหารเพื่อลดน้ำหนักได้ดีทีเดียว มีคาเฟอีนน้อยกว่า 5%
กาแฟกาโน 3 อิน 1 กลมกล่อมนิ่มนวล อร่อยเหาะ กาแฟอื่น ดื่มมากแล้วกระดูกพรุน แต่กาแฟกาโน ดื่มแล้วช่วยเสริมมวลกระดูกให้แน่นขึ้น แถมเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคตับ เพราะหลินจือน้ำเข้มข้นที่ผสมอยู่ในกาแฟจะช่วยอาการดังกล่าวได้เนี้ยบมาก กาแฟ 3 อิน 1 ของกาโน มีคาเฟอีน ต่ำกว่า 1%
กาแฟมอคค่า ให้ฮอร์โมนที่ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับคนวัยทองไม่ว่าหญิงหรือชาย ให้ความสดชื่น ไม่หงุดหงิด ไม่รุ่มร้อน โดยเฉพาะอาการภูมิแพ้ผิวหนังจะเหมาะมาก ถ้ากินคู่กับนมผึ้งละก็ เหมาะสำหรับสาว ๆ ทำให้อึ๋มได้อย่างไม่อายใครทีเดียว มีคาเฟอีน ต่ำว่า 1%
กาแฟสกาโน นอกจากมีทงกัดอาลี (ว่านปลาไหลเผือก) แล้ว ก็มีหลินจือ และโสมผสมด้วย ให้ความกระชุ่มกระชวย ให้ความรู้สึกที่แข็งแกร่งสำหรับท่านชาย ช่วยให้หัวใจแข็งแรง คลายกล้ามเนื้อ ลดอาการปวด มีคาเฟอีน ต่ำว่า 1%
ช็อกโกแล็ต เครื่องดื่มโกโก้ที่มีความเข้มข้น มีส่วนผสมทั้งดอกหลินจือและรากหลินจิอ บำรุงร่างกาย บำรุงหัวใจ ช่วยให้สดชื่น เหมาะสำหรับคนป่วยที่จะช่วยให้ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ดอกหลินจือและรากหลินจือในช็อกโกแล็ตกาโนจะช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัว มีอาการดีขึ้นชัดเจน
ซีเรียลกาโน นอกจากมีส่วนผสมของหลินจือแล้ว ก็มีสกาโน มีสาหร่ายสไปรูรีน่าเสริมเพิ่มเข้ามาอีก ให้การบำรุง ให้สารอาหารที่เพียงพอสำหรับคนป่วยที่กำลังฟื้นตัวได้เยี่ยมมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอีกเช่นเดียวกัน โดยใช้ซีเรียลกาโนผสมกับช็อกโกแล็ตกาโน แล้วดื่มแทนมื้ออาหารทั้ง 3 มื้อได้เลย มีโอกาสช่วยให้น้ำหนักลดลงได้อีกทางหนึ่ง
ชากาโน เป็นชนิดพิเศษ มีเพียงแห่งเดียวในโลกที่ประเทศอัฟฟริกาใต้เท่านั้น ชาวอัฟฟริกาถือว่าเป็นชาเยี่ยมทุดในโลกที่จะให้สุขภาพแข็งแรง อายุยืนสำหรับผู้ที่กินชาชนิดนี้ ไม่ว่าจะกินแบบเอามาเคี้ยวหรือกินแบบชงเป็นชา นับได้ว่าเป็นชาชนิดเดียวในโลกนี้ที่ไม่มีคาเฟอีน และมีสารเทนนินน้อยยิ่งกว่าน้อย จึงไม่ต้องห่วงว่าจะทำให้ท้องผูกเมื่อแช่ในน้ำร้อนนาน ๆ ถ้าเอาซองชากาโนสัก 2-3 ซองแช่ในกระติกน้ำร้อนไฟฟ้า จะเป็นชาสีทับทิม ดื่มแล้วชื่นใจหายเหนื่อยทีเดียว ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง ชากาโนต่อต้านอนุมูลอิสระได้อย่างดีเยี่ยม เพราะมีสาร SOD จำนวนมากมหาศาลทีเดียว ที่เหมาะยิ่งกว่านั้น ใช้ล้างแผลเน่าเปื่อย แผลเรื้อรังได้อย่างดีทีเดียว แต่ชากาโนไม่สามารถผสมหลินจือสกัดร้อนได้ จึงเป็นหลินจือที่สกัดเย็นผสมอยู่ในถุงชา

นี่คือเครื่องดื่มกาโนที่เป็นเครื่องดื่มไม่เหมือนเครื่องดื่มทั่ว ๆ ไปในท้องตลาด แต่บอกเสียก่อนว่า เครื่องดื่มกาโน ไม่ใช่ยา ใช้ได้คือการบรรเทาอาการป่วยได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่การรักษา การจะมีประสิทธิภาพในการรักษาที่ได้ผลก็ต้องกินหลินจือราก และดอก บวกด้วยสมุนไพรสุดยอดของกาโนแบบร่วมด้วยช่วยกันเป็นลักษณะสูตรยาจีน.